น้ำท่วมพัทลุงยังวิกฤติ ชุมชนบริเวณริมทะเลสาบสงขลาจมหนัก ยังคงรอการช่วยเหลือ

แม้พื้นที่เชิงเขาของจังหวัดพัทลุง ได้แก่ อำเภอกงหรา ป่าบอน ป่าพะยอม และศรีนครินทร์ จะเริ่มเห็นระดับน้ำลดลง หลายหมู่บ้านกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังน้ำป่าไหลหลากในช่วงก่อนหน้า แต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณรอบทะเลสาบ ในอำเภอควนขนุน เมืองพัทลุง ปากพะยูน บางแก้ว และเขาขัยสน สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวทำหน้าที่เป็นแหล่งรองรับมวลน้ำจำนวนมากในช่วงฝนตกหนัก ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี

ช่วงวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ปันน้ำใจ นำโดยทีมคณะทีมผู้บริหาร บุคลากร และนิสิต มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ลงพื้นที่รายล้อมนอกบริเวณ ตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน และ ตำบลพนางตุง อำเภคควนขนุน พบว่า ระดับน้ำในหลายจุดยังสูงถึง 1.5–2 เมตร ชาวบ้านจำนวนมากต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย เส้นทางคมนาคมหลายสายถูกตัดขาด ทำให้การเดินทางเข้า–ออกพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก บางจุดจำเป็นต้องใช้เรือในการสัญจร ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถออกไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นได้ตามปกติ

สถานการณ์น้ำท่วมยังทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด อาหารแห้ง ยารักษาโรค และอุปกรณ์ยังชีพพื้นฐาน เจ้าหน้าที่และจิตอาสาจากหลายหน่วยงานยังคงต้องเร่งระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยังเดือดร้อนและเข้าถึงยาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในทันที มหาวิทยาลัยทักษิณได้จัดทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยมอบถุงยังชีพและน้ำดื่มสะอาดรวมมากว่า 500 ชุด ให้แก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เป็นการส่งต่อความห่วงใยและสนับสนุนชุมชนในช่วงวิกฤติครั้งนี้

ในห้วงเวลานี้สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพัทลุงยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำป่าจากพื้นที่ตอนบนที่อาจไหลสมทบ และสภาพอากาศยังมีแนวโน้มเกิดฝนตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีความเสี่ยงระดับน้ำเพิ่มขึ้นหรือท่วมขังยาวนานต่อไป ในขณะเดียวกันหลังจากวิกฤตน้ำท่วมลดลง พื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องวางแผนจัดการปัญหาน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็น จากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พาหนะโรคที่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพคนและสัตว์ในพื้นที่อีกด้วย

...............................................

ข่าว: งานสื่อสารองค์กร  สำนักงานมหาวิทยาลัยทักษิณ