หลังมหาอุทกภัยใหญ่ที่พัดถล่มภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมืองกำลังเผชิญปัญหา “ซากขยะมหาศาลหลังน้ำลด” กระจายเต็มชุมชนและพื้นที่สาธารณะ ทั้งขยะทั่วไป ขยะติดเชื้อ ไปจนถึงขยะอันตรายที่เสี่ยงปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน ท่ามกลางความท้าทายนี้ มหาวิทยาลัยทักษิณจึงระดมคณาจารย์–นิสิต–เครือข่ายอาสา ลงพื้นที่ฟื้นฟูเมือง ช่วยจัดการขยะ ดูแลสุขภาพชุมชน และซ่อมแซมสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้คนสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งอย่างปลอดภัยและยั่งยืน

ซากขยะหลังน้ำลดมีองค์ประกอบที่หลากหลาย ทั้งซากสัตว์ที่เน่าเสีย ขยะอินทรีย์ เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด พลาสติก กล่องโฟม กระจก กระดาษ วัสดุก่อสร้าง เศษผ้า เศษไม้ตะกอนดิน และกระสอบทรายจำนวนมาก โดยหลายส่วนยังเปียกชื้นและปนเปื้อนด้วยคราบโคลน ทำให้คัดแยกยากและเพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบ “ขยะอันตราย” เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ สี สารเคมี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหากจัดการไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนลงสู่ดิน น้ำ และอากาศได้โดยตรง

ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเริ่มเห็นชัด ทั้งกลิ่นเหม็นที่อบอวลจากการหมักหมมและเกิดกลิ่นที่มาจากกระบวนการย่อยสลายของขยะอินทรีย์ การอุดตันท่อระบายน้ำจากเศษวัสดุ น้ำชะขยะที่อาจไหลลงสู่แหล่งน้ำ รวมถึงการเพิ่มจำนวนของสัตว์พาหะที่นำโรคผิวหนัง ตาแดง และโรคทางเดินอาหาร ขณะเดียวกัน การเคลื่อนย้ายขยะที่กระจัดกระจายยังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากของมีคมและสารปนเปื้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในส่วนด้านเศรษฐกิจ ท้องถิ่นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการเก็บ–ขน–กำจัดขยะและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ประชาชนต้องฟื้นฟูบ้านเรือนของตนเองพร้อมรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ภาพเมืองที่ยังเต็มไปด้วยขยะตกค้างยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบและมีแผนรองรับหลังเกิดภัยพิบัติ เริ่มตั้งแต่การรวบรวมและเร่งเก็บขน ขยะที่ตกค้างออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปฟื้นฟูบ้านเรือนของตนเองได้ การคัดแยกขยะเบื้องต้นเพื่อแยกระหว่างขยะที่นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ กับขยะที่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และการกำจัดอย่างเหมาะสม หากสถานที่กำจัดเดิมมีความพื้นที่เสียหาย หน่วยงานท้องถิ่นควรจัดหาสถานที่กำจัดขยะชั่วคราวที่ปลอดภัยจนกว่าจะสามารถซ่อมแซมพื้นที่เดิมได้ นอกจากนี้ต้องมีการฟื้นฟูพื้นที่รองรับขยะชั่วคราว ทั้งการหาพื้นที่ที่สามารถรองรับปริมาณขยะที่เกิดขึ้น และตรวจสอบไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยสั้นและระยะยาว
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องการทั้ง “กำลังคน” และ “องค์ความรู้เฉพาะทาง” อย่างเร่งด่วน มหาวิทยาลัยทักษิณได้ระดมคณาจารย์ นิสิต และเครือข่ายจิตอาสา ลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชนในหลายมิติ ทั้งการเก็บขยะ การคัดแยกเบื้องต้น การสำรวจพื้นที่เสี่ยง และการให้ความรู้ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อเร่งฟื้นเมืองให้กลับมาดำเนินชีวิตได้โดยเร็วที่สุด ภารกิจสำคัญที่มหาวิทยาลัยทักษิณกำลังดำเนิน ได้แก่

"TSU บวร Wash" จิตอาสาลงเคลียร์พื้นที่หลังน้ำลดร่วมกับท้องถิ่นและประชาชนเก็บกู้เศษวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ที่ชำรุด ต้นไม้ล้ม ตะกอนดิน และทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ

นอกจากนี้กลุ่มนิสิตสายวิทยาศาสตร์สุขภาพลงพื้นที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ตรวจอาการผิดปกติหลังสัมผัสน้ำเสีย แจกยาแก้น้ำกัดเท้า–ยาป้องกันโรคฉี่หนู พร้อมเฝ้าระวังโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำท่วม นิสิตอาสาซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ฟรี ช่วยตรวจเช็กและซ่อมบำรุงเบื้องต้นให้ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ยานพาหนะ หลังจากอุปกรณ์เสียหายจากน้ำท่วม

แม้น้ำจะลดลง แต่ภารกิจการฟื้นเมืองยังไม่จบ วิกฤติซากขยะจึงกลายเป็นบททดสอบสำคัญของระบบจัดการภัยพิบัติของเมืองหาดใหญ่ ว่าจะสามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนและหมักหมกเช่นนี้ได้เพียงใด และจะเตรียมการอย่างไรเพื่อไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดซ้ำในอนาคต
.............................
กรมควบคุมมลพิษ. (2556). แนวทางการจัดการขยะมูลฝอยในภาวะอุทกภัย. เข้าถึงเมื่อ 4 ธันวาคม 2568 จาก https://www.pcd.go.th/wp-content/uploads/2020/05/pcdnew-2020-05-27_09-06-06_484726.pdf
เขียน : งานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยทักษิณ