Black Ribbon Top Right
ระดมพลังรับมืออุทกภัย ฟื้นหัวใจชุมชน  บทบาทของมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม ม.ทักษิณ

ระดมพลังรับมืออุทกภัย ฟื้นหัวใจชุมชน บทบาทของมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม ม.ทักษิณ

4 ธ.ค. 68 76

อุทกภัยครั้งใหญ่ที่ถาโถมหลายพื้นที่ของภาคใต้ไม่เพียงท้าทายความสามารถในการรับมือ แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการขยับเชิงรุกเพื่อการสนับสนุนสังคมในภาวะวิกฤต มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ขับเคลื่อนภารกิจเพื่อสังคมอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมการเตรียมความพร้อม การช่วยเหลือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูหลังสถานการณ์คลี่คลาย โดยระดมศักยภาพของนิสิต บุคลากร และเครือข่ายชุมชน เพื่อร่วมกันลดผลกระทบและสร้างความเข้มแข็งให้พื้นที่อย่างยั่งยืน

เมื่อน้ำเริ่มขยับสูงขึ้น ถนนสายหลักเปลี่ยนเป็นคลอง และหลายชุมชนถูกตัดขาดในพื้นที่จังหวัดสงขลาและพัทลุง มหาวิทยาลัยทักษิณได้เปิด “ศูนย์ปันน้ำใจ” ทั้งสองวิทยาเขตสงขลาและพัทลุง และหน่วยประสานงานในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นจุดรับ–กระจายสิ่งของที่จำเป็นจากความร่วมมือทั้งหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยและการสนับสนุนจากภาคีภายนอก มีผู้คนเดินทางมามอบของทั้งสองวิทยาเขต พร้อมกันนั้น “ศูนย์ปันน้ำใจ” ยังได้เร่ง กระจายถุงยังชีพ ไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างทันท่วงที โดยวิทยาเขตสงขลาจัดส่งถุงยังชีพแล้ว 33,132 ชุด ส่งมอบในพื้นที่สงขลา สตูล และพัทลุง ในส่วนของวิทยาเขตพัทลุงจัดส่ง 4,586 ครัวเรือน ข้าวสารกว่า 191 กระสอบ ของอุปโภคและบริโภคกว่า 50,446 ชิ้น รวมทั้งน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในอำเภอต่าง ๆ การทำงานอย่างเข้มแข็งของนิสิต บุคลากร และเครือข่ายจิตอาสา ทำให้ความช่วยเหลือเข้าถึงชุมชนได้รวดเร็วและทั่วถึง บางคนถือถุงยังชีพ บางคนจัดของ บางคนยืนโบกมือเรียกชาวบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ เหมือนทุกคนรู้โดยไม่ต้องบอกว่า “นี่คือเวลาที่เราต้องอยู่เคียงข้างกัน”


ภายในบ้านรั้วมหาวิทยาลัยทักษิณ ฝ่ายกิจการนิสิตได้เปิด “ครัวกลาง” เพื่อจัดเลี้ยงอาหารมื้อเย็นให้กับนิสิตที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมสร้างความอุ่นใจให้ผู้ปกครองว่านิสิตได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงในช่วงเวลาวิกฤต

ศูนย์พักพิงที่วิทยาเขตสงขลา วิทยาเขตพัทลุง และสถาบันทักษิณคดีศึกษา ถูกจัดตั้งขึ้นในเวลาถัดมา เสื่อและผ้าห่มถูกปูลงบนพื้นกว้าง ครัวเปิดเตรียมอาหารสดและแห้ง ได้จัดเตรียมเพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่พิงพักอาศัยและปลอดภัยสำหรับทุกคน ของเล่นเด็กถูกวางไว้ในมุมหนึ่งเพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีกิจกรรมผ่อนคลาย อาสาสมัครจากหลายสังกัดรวมพลังร่วมจัดการศูนย์พักพิง ช่วยดูแลผู้ประสบภัย และสนับสนุนกิจการสาธารณะเร่งด่วน

หลังระดับน้ำเริ่มลดลง มหาวิทยาลัยทักษิณได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนภายใต้ชื่อ “TSU บวร Wash” ดึงพลังของนิสิตจิตอาสา ร่วมฟื้นฟูโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบในอำเภอหาดใหญ่ ทำความสะอาดพื้นที่ บูรณะอุปกรณ์การเรียน และจัดสภาพแวดล้อมให้พร้อมสำหรับการเปิดเรียน

นอกจากนี้ นิสิตยังได้ทำงานร่วมกับชุมชนในการทำความสะอาดวัด มัสยิด และสถานที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้โดยเร็ว การมีส่วนร่วมนี้ไม่เพียงช่วยลดความเสียหาย แต่ยังสร้างความหวังและกำลังใจให้แก่ชุมชนในวันที่ยากลำบาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้จัดตั้ง จุดบริการซ่อมรถจักรยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี เพื่อบรรเทาภาระของครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นิสิตและบุคลากรได้นำทักษะวิชาชีพมาช่วยฟื้นฟูอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทำให้เห็นคุณค่าของการเรียนรู้เชิงปฏิบัติที่ตอบสนองความต้องการของสังคมในสถานการณ์จริง สายวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัย ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ และคณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา ได้จัดตั้ง หน่วย “หมอเดินดิน” เพื่อออกเยี่ยมบ้าน ตรวจสุขภาพเบื้องต้น แจกยา ให้คำแนะนำทางการแพทย์ และดูแลผู้สูงอายุ–ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ประสบภัย การทำงานเชิงรุกนี้ช่วยให้ประชาชนได้รับการดูแลแม้ในวันที่การเดินทางยากลำบาก เป็นตัวอย่างของการใช้ความรู้ทางสุขภาพเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้

มหาวิทยาลัยทักษิณตระหนักว่านิสิตจำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัย จึงประกาศ มาตรการเร่งด่วน 4 ประการ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่

  1. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษา สำหรับนิสิตที่สูญเสียผู้ปกครองหรือผู้อุปการะ
  2. ลดค่าธรรมเนียมการศึกษาร้อยละ 10 ให้แก่นิสิตปริญญาตรีทุกคนในภาคเรียน 2/2568 และ 1/2569
  3. ลดค่าธรรมเนียมร้อยละ 10 สำหรับนิสิตใหม่ระดับปริญญาตรีในภาคเรียน 1/2569
  4. ขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียม ภาคเรียน 2/2568 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569

นอกเหนือจากมาตรการทางการเงิน มหาวิทยาลัยยังขับเคลื่อนการดูแลนิสิตในทุกมิติ ได้แก่ ครัวกลาง และการสนับสนุนด้านการดำรงชีพ โครงการ เพื่อนช่วยเพื่อน และการแบ่งปันอุปกรณ์การเรียน ทุนการศึกษา ทุนจ้างงาน และทุนผู้ช่วยวิจัย การดูแลด้านสุขภาพจิตผ่านทีมผู้เชี่ยวชาญและกิจกรรมฟื้นฟูจิตใจ โครงการ หนึ่งผู้อุปการะ หนึ่งทุนการศึกษา เพื่อให้การศึกษาไม่สะดุด มาตรการเหล่านี้สะท้อนความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการคุ้มครองศักยภาพของนิสิตและลดผลกระทบด้านโอกาสทางการศึกษาในระยะยาว

ในห้วงเวลาที่ยากลำบากมหาวิทยาลัยทักษิณในฐานะ “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคม” สถาบันที่ยืนเคียงข้างชุมชนในยามวิกฤต ใช้ความรู้ ความสามารถ และเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ และมุ่งพัฒนาแนวทางการฟื้นฟูที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยได้แสดงให้เห็นว่านอกจากบทบาทเชิงวิชาการแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญของสังคมที่พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของพื้นที่อย่างทันท่วงที สร้างความเชื่อมั่นว่าระบบการศึกษาไทยสามารถเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวข้ามวิกฤตไปได้
 

.........................................

ข่าวโดย งานสื่อสารองค์ มหาวิทยาลัยทักษิณ