งานมหกรรมจัดแสดผลการดำเนินงาน TSU2T Innovation Fair : นวัตกรรมชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ (U2T) ของมหาวิทยาลัยทักษิณ วันที่ 2 ยังคงได้รับความสนใจจากผู้มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเติมเต็มกิจกรรมน่าสนใจทั้งความรู้และความบันเทิง
(27 ธันวาคม 2564) วันที่ 2 ของการจัดงาน มีกิจกรรม TSU Ted Talk 1 : พลัง-ความหวัง ขับเคลื่อนท้องถิ่นด้วย U2T โดย อาจารย์ ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการและชุมชนสัมพันธ์ สงขลา และรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน
TSU Ted Talk 2 : นวัตกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฐานราก โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ
และต่อเนื่องด้วย กิจกรรมการ Pitching ของแต่ละตำบล ในการแข่งขัน The Best U2T Innovation Award
อาจารย์ ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร กล่าวว่า สำนักส่งเสริมการบริการวิชาการและภูมิปัญญาชุมชน เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยทักษิณในการดำเนินงานโครงการ U2T โดยมีนวัตกรชุมชนและภาคีเครือข่าย ท้องที่ ท้องถิ่น ผู้ประกอบการ เครือข่ายองค์กรของรัฐ และภาคประชาสังคม ที่ช่วยในการขับเคลื่อนงานทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Creative Economy สุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดย ม.ทักษิณ มีความตั้งใจจะให้นวัตกรชุมชน ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาว ได้ดึงศักยภาพของตนเอง คิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เข้าใจในภาพรวมขององค์กร ชุมชน รวมไปถึงการช่วยเหลือและรวมพลังกันขับเคลื่อนชุมชน เชื่อว่าหากเราเตรียมพร้อมตัวเองให้ดีที่สุด โอกาสจะมาเอง ขอให้ทุกคนเติมพลังให้กันและกันเพื่อสร้างความหวัง ขับเคลื่อนท้องถิ่นไปด้วยกัน
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ ได้กล่าวถึงนวัตกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฐานราก ว่า ม.ทักษิณ ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม โดยการนำพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย คือ การจัดการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ทั้งหมดมาหลอมรวมให้เป็นการขับเคลื่อนภายใต้มิตินวัตกรรมสังคม โดยนำองค์ความรู้ต่างๆของทุกหน่วยงาน โดยยึดพื้นที่เป็นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนงาน และเป็นฐานสำคัญของการเคลื่อนเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับที่สูงขึ้นไป โดยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนดีขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับชุมชนฐานราก โดยหัวใจสำคัญที่สุดของการทำนวัตกรรมเชิงพื้นที่ประกอบไปด้วย บริบทของพื้นที่ กระบวนการมีส่วนร่วม การสร้างความตระหนัก เกิดการตื่นตัว และสามารถที่จะพึงตนเองได้ในระยะยาว การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฐานรากมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ ภูมินิเวศ ภูมิวัฒนธรรม ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อหลอมรวมกันทำให้นำไปสู่การเพิ่มคุณค่าไปพร้อมๆกับการสร้างมูลค่าใหม่ของทรัพยากรและสินค้าที่เกิดขึ้นในชุมชนท้องถิ่นได้ การขับเคลื่อนจากฐานราก เรื่ององค์กรชุมชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดทำแผน วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ระดับพื้นที่ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้มีประสิทธิภาพ “การบรูณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เข้ากับนโยบายการพัฒนา สภาพทางภูมินิเวศและภูมิวัฒนธรรม จะทำให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคมฐานราก ที่มีอัตลักษณ์และจินตนาการ”