เมื่อ 24 นิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้ชนะการประกวด 'TSU Innovation Pitching League 2025' ได้ออกเดินทางสู่ประเทศสิงคโปร์ ศูนย์กลาง Deep Tech ระดับโลก พวกเขาไม่ได้แค่ไปเยี่ยมชม แต่ไปเพื่อถอดรหัสกลยุทธ์ของชาติ ที่เปลี่ยน BLOCK71 ตึกนิคมอุตสาหกรรมเก่า ให้กลายเป็น 'หัวใจของการสร้าง Startup' นี่คือการเดินทางเพื่อค้นพบหนทางที่จะเปลี่ยน 'เมล็ดพันธุ์นวัตกรรม' ของ TSU ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของประเทศ แม้ในยุคที่ทรัพยากรธรรมชาติถูกจำกัด แต่พลังแห่งการสร้างสรรค์นั้นไร้ขอบเขต... สิงคโปร์ได้ใช้ 'ขีดความสามารถทางปัญญา' เป็นอาวุธทางเศรษฐกิจแห่งอนาคต ฉะนั้นเราจึงมาที่นี่
เท้าความ : การแข่งขันสู่โอกาส
ทันทีที่ผลคำตัดสินของเวที TSU Innovation Pitching League 2025 ถูกขานออกสู่ผู้รับฟัง รายนามของทีมที่มีคะแนนสูงสุด 15 ทีมแรก ที่ได้โอกาสในการไปศึกษาระบบนิเวศนวัตกรรม ภาพความยินดีของนิสิต ทั้งในการยินดีให้แก่ตัวเอง เพื่อน รุ่นพี่-รุ่นน้อง หรือศิษย์ ได้อบอวลไปทั่วทั้งหอประชุมปาริชาต นั้นทำให้เขาเหล่านั้นรู้ว่าขณะนี้ทุกคนกำลังจะก้าวไปอีกขั้นของการเรียนรู้แล้ว...

เริ่มต้นการเดินทาง : ข้ามพรมแดนสู่สิงค์โปร์
กระเป๋าเดินทาง เอกสารประจำตัว และตั๋วบินลัดฟ้าถูกจัดแจงและตรวจสอบตามลำดับ ภาพของคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และกลุ่มนิสิตผู้ชนะการประกวด “TSU Innovation Pitching League 2025” กลุ่มเส้นทางที่ 1 : ประเทศสิงคโปร์ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ เต็มไปด้วยความหลากหลายความรู้สึกดี ๆ แม้การเดินทางในครั้งนี้อาจจะมีการต้องแบ่งจำนวนคนออกเป็นสองทีม แต่ทุกคนล้วนมีปลายทางเดียวกัน
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการดูงานครั้งนี้ คือการให้นิสิตได้สัมผัสและเรียนรู้กลยุทธ์ที่รัฐบาลสิงคโปร์และสถาบันการศึกษาใช้ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อนำความรู้และประสบการณ์กลับมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในบริบทของประเทศไทย
การเดินทางข้ามพรมแดนจากภาคใต้ของไทย ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ สู่สิงคโปร์ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นประเทศที่จำกัดด้วยขนาดพื้นที่และทรัพยากร แต่กลับกลายเป็น "ผู้นำด้านนวัตกรรม" ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี Deep Tech และทรัพยากรมนุษย์ศักยภาพสูงเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก่อนเดินทางเราหลายคนมีคำถามนี้เกิดขึ้นในว่า แล้วพวกเขาทำได้อย่างไร?

เข้าสู่บทเรียน : เส้นทางสู่ Deep Tech Seed
เข้าสู่วันที่ 2 และ 3 ของแผนการเดินทาง ทันทีที่คณะฯ ก้าวสู่ BLOCK71 Singapore (Blk71) ในเขต Ayer Rajah Crescent ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “หัวใจของการสร้าง Startup” ของสิงคโปร์ ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore: NUS)

ภาพจาก : NUS Enterprise
พวกเราได้พบหน้ากับ คุณ Lum Yi Chyi, CEO ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย และทีมงานของ Origgin Ventures ให้การต้อนรับคณะของเรา โดยเธอได้แนะนำกิจกรรม สถานที่สำคัญด้านการเป็นผู้ประกอบการ และวิทยากรชั้นนำ ได้แก่ ผู้ประกอบการ นักศึกษาที่เป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักวิชาการ/ที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์ ที่นิสิตจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงมากกว่า 10 ท่าน ตลอดกิจกรรม

คุณ Clarence Tan ผู้ก่อตั้ง Origgin Ventures ย้ำถึงการพัฒนาการประกอบการในสิงคโปร์ที่มุ่งเน้น "ทรัพยากรมนุษย์" เป็นสำคัญ เนื่องจากข้อจำกัดเชิงพื้นที่ โดยได้อธิบายว่า Deep Tech คือเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการค้นคว้าวิจัยจากศาสตร์ต่าง ๆ ซึ่งสิงคโปร์ใช้ ทรัพยากรมนุษย์ศักยภาพสูง ในการขับเคลื่อน และส่วนของกลยุทธ์ Venture Co-Creation (VCC): จุดเด่นของ Origgin คือการทำงานใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยและแหล่งปัญญา เพื่อร่วมสร้างธุรกิจเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยภายใต้กลยุทธ์ VCC

บทบาทรัฐบาลและ Mentor: แหล่งเงินทุนและที่ปรึกษา
SGInnovate: ดึงดูด Talent ระดับโลก: Wilma Heng ผู้จัดการ Talent ประจำประเทศไทยของ SGInnovate (แพลตฟอร์มสร้างนวัตกรรมโดยรัฐบาล) ได้เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการดึงดูด "มันสมองของโลก" ให้มารวมกัน โดยรัฐบาลและธุรกิจเอกชนจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด (เดินทาง วีซ่า รายได้) สำหรับนิสิต/นักศึกษาจากทั่วโลกที่เข้ามาสหกิจ/ฝึกงานในอุตสาหกรรม Deep Tech เป้าหมาย อาทิ AI, เทคโนโลยีชีวภาพ,และไซเบอร์ซีเคียวริตี้
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ: Prof. Neo Kok Beng ศาสตราจารย์อาคันตุกะของ NUS แชร์ประสบการณ์การก่อตั้ง Startup สำเร็จ 2 บริษัท โดยสรุปปัจจัยสำคัญคือ การนำเสนอคุณค่า และ ความเข้าใจปัญหาลูกค้าอย่างแท้จริง
พลังของ NUS Entrepreneurship Society (NES): ตัวแทนนักศึกษาจาก NES เผยความสำเร็จในการผลิตนักศึกษาผู้ประกอบการกว่า 100 ธุรกิจ ผ่านการบ่มเพาะเข้มข้น และการสนับสนุนที่แข็งแกร่งทั้งด้านเงินทุนและระบบพี่เลี้ยง (Mentorship)


“เชื่อเสมอว่า...ศักยภาพของนิสิตเรามีเต็มเปี่ยม และด้วยการหนุนเสริมของมหาวิทยาลัย จะทำให้พวกเขามีทักษะ มีเครื่องมือและก่อให้เกิด Startup/ธุรกิจ โดยนิสิตของเราในเร็ววันนี้ ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิรยา สิทธิสาร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและพันธกิจสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์กับทางทีมงาน
และเรียนรู้ว่า 'ความเสียดายที่เริ่มช้า' คือต้นทุนที่แพงที่สุดของการเป็นผู้ประกอบการ!


.
เรื่อง : วศิน ประดิษฐศิลป์
ภาพ : ปรเมศวร์ กาแก้ว